วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เปิดมุมมองกับบล็อกเกอร์

Bienveanuie!! ^^
Bonjour je m'applle SEATAN  Nuntiya.


ก่อนที่เราจะมาเรียนรู้ภาษาฝรั่งเศสเราก้ต้องมาเรียนรู้เรื่องราวของฝรั่งเศสกันบ้างเล็กน้อยค่ะ

ฝรั่งเศสนั้นถือได้ว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดในโลก   เป็นเมืองแห่งน้ำหอม ขนม และแฟชั่น  ประเทศฝรั่งเศสนั้นมีประวัติศาสตร์ที่หน้าสนใจ และ ยาวนานมาก  เคยเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลกนับตั้งแต่ค.ศ.ที่ 7 เป็นต้นมา  ฝรั่งเศสถือได้ว่าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และมีเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับที่  6 ของโลก  ทำให้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่ใช้กันทุกทวีปทั่วโลก  

ประวัติที่มาคร่าวๆของชื่อ"ฝรั่งเศส"
คำว่า ฝรั่งเศส (France) มาจากคำในภาษาละตินว่า Francia ซึ่งแปลตามตรงว่า ดินแดนของชาวแฟรงก์ (Frankland) และมีหลายทฤษฎีที่สันนิษฐานถึงที่มาของคำว่า แฟรงก์ (Franks) ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคำในภาษาโปรโต-เยอรมันว่า Frankon ซึ่งแปลว่า หลาว หอก หรือทวนซึ่งเป็นอาวุธของพวกแฟรงก์ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ฟรานซิสกา (Francisca)
อีกทฤษฎีหนึ่งตามหลักนิรุกติศาสตร์คือในภาษาเยอรมันโบราณ คำว่า แฟรงก์ แปลว่าอิสระ ซึ่งตรงกันข้ามกับความเป็นทาส โดยคำดังกล่าวยังคงปรากฏในภาษาฝรั่งเศสปัจจุบันในรูป ฟรังก์ (Franc) ซึ่งเป็นสกุลเงินของประเทศฝรั่งเศสจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นสกุลเงินยูโรในปี พ.ศ. 2545
ในปัจจุบันประเทศเยอรมนียังเรียกประเทศฝรั่งเศสว่า Frankreich ซึ่งแปลว่า อาณาจักรของชาวแฟรงก์ อีกด้วย

ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ 

ชาวฝรั่งเศสสืบเชื้อสายมาจากพวกโกลในศตวรรษที่ 1 จากนั้นตกมาอยู่ใต้การปกครองของพวกแฟรงก์ (ชื่อประเทศ France มาจากคำว่าแฟรงก์เช่นกัน) ปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ที่มีบันทึกว่าเริ่มในศตวรรษที่ 5 เมื่อพระเจ้าชาร์เลอมาญตั้งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ใน ค.ศ. 843 ก็มีอาณาเขตครอบคลุมทั้งฝรั่งเศสและเยอรมนี
ราชสำนักฝรั่งเศสขึ้นสู่จุดสูงสุดในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งในยุคนี้ฝรั่งเศสได้เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในยุโรป และมีอำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจศิลปะ และ วัฒนธรรม ต่อยุโรปเป็นอย่างมาก
ภาพ La Liberté guidant le peupleหรือ เสรีภาพนำประชาชน เล่าเรื่องเหตุการณ์ตอนปฏิวัติฝรั่งเศส
ฝรั่งเศสปกครองด้วยระบอบกษัตริย์จนถึงสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16ในปี ค.ศ. 1792 จึงเปลี่ยนมาใช้ระบอบสาธารณรัฐ หลังจากนั้นนโปเลียน โบนาปาร์ตได้ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิและรุกรานประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป เมื่อนโปเลียนพ่ายแพ้ ฝรั่งเศสจึงกลับมาใช้ระบบสาธารณรัฐอีกครั้ง เรียกว่ายุคสาธารณรัฐที่สอง แต่ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะหลุยส์ นโปเลียน หลานลุงของนโปเลียนได้ยึดประเทศและตั้งจักรวรรดิที่สองอีกครั้ง
ตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึง ทศวรรษที่ 60 ซึ่งเป็นยุคล่าอาณานิคม จักรวรรดิฝรั่งเศสมีพื้นที่ใหญ่มาก โดยช่วงที่ใหญ่ที่สุดคือช่วงยุคทศวรรษที่ 20 ถึง 30 ซึ่งมีกว่า 12,898,000 ตารางกิโลเมตร และเป็นจักรวรรดิอันดับสองของโลก รองมาจากจักรวรรดิอังกฤษ
ฝรั่งเศสได้รับความบอบช้ำอย่างหนักจากสงครามโลกทั้งสองครั้ง ปัจจุบันใช้การปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบที่มีทั้งประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรี (เรียกยุคสาธารณรัฐที่ห้า) ทศวรรษที่ผ่านมาฝรั่งเศสและเยอรมนีเป็นผู้นำของการรวมตัวตั้งประชาคมยุโรป ซึ่งพัฒนามาเป็นสหภาพยุโรปในปัจจุบัน
ฝรั่งเศสยังเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และเป็นประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง

ทำไมต้องเรียนภาษาฝรั่งเศส ? 
      ตัวของบล็อกเกอร์เองนั้นชื่นชอบประเทศฝรั่งเศสเป็นส่วนตัวอยู่แล้วค่ะ และเชื่อว่าหลายๆคนคงชอบประเทศสุดแสนจะโรแมนติกนี้  สาเหตุที่ตัวบล็อกเกอร์ลองสรุปคร่าวๆ จากคำตอบของเพื่อนๆหลายๆคนในห้อง ว่า 
1.อยากเป็นฑูต 
2.อยากเป็นนักออกแบบของห้องเสื้อชื่อดังในฝรั่งเศส
3.อยากเป็นไกด์
4.อยากไปเที่ยวฝรั่งเศส
5.อยากมีภาษาที่สามไว้ในการประกอบอาชีพ
ุ6.สนใจในรสชาติของอาหารฝรั่งเศส(อันนี้หลายคนชอบมากค่ะ 555 ><)
และอื่นๆอีกมากมาย  
           ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่สรุปได้มา แล้วผู้อ่านล่ะค่ะ ทำไมถึงอยากเรียนภาษาฝรั่งเศส?  ลองเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง แล้วลองทำมันให้เต็มที่นะคะ :D

     ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอขอบคุณข้อมูลจากวิกีพีเดียค่ะ  ลองคลิ๊กเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มได้นะค่ะ มีประโยชน์มาก
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%9D%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%AA#.E0.B8.97.E0.B8.B5.E0.B9.88.E0.B8.A1.E0.B8.B2.E0.B9.81.E0.B8.A5.E0.B8.B0.E0.B8.9B.E0.B8.A3.E0.B8.B0.E0.B8.A7.E0.B8.B1.E0.B8.95.E0.B8.B4.E0.B8.82.E0.B8.AD.E0.B8.87.E0.B8.8A.E0.B8.B7.E0.B9.88.E0.B8.AD



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น